“เพราะการที่เราเรียนรู้ทุกอย่างเราจะไม่เข้าใจ และบางครั้งมันก็ยากเกินไปที่เราจะเข้าใจด้วยค่ะของบางอย่างต้องใช้เวลา แต่เชื่อเถอะว่าถ้าลอง 10 วิธีนี้ก่อนจะไปไกลมากๆ“
1.เรียนรู้วิทยาการคำนวณ หรือ Computer Science
โค้ดดิ้งคือหนึ่งในวิชาวิทยาการคำนวณเพราะวิทยาการคำนวณไม่ได้สอนแค่โค้ดดิ้งอย่างเดียว แต่สอนเรื่องการใช้สื่อที่เหมาะสมด้วย หากเราเปิดใจ เรียนเรื่องวิทยาการคำนวณมันจะเป้นประตูเชื่อมต่อไปวิชาอื่นๆได้ค่ะ
2.ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา
แน่นอนว่าการเรียนเขียนโปรแกรมเราไม่สามารถเข้าใจภายใน 3 นาที เราต้องอดทนเพื่อทำความเข้าใจในภาษาใหม่นี้และเราสามารถพักผ่อนสมองได้ หากเราต้องการ เช่น วันนี้นั่งเรียนเขียนโปรแกรมแล้วอยากพักสักหน่อย เอา 30 นาทีพอ
การพักคือสิ่งที่ดีเพราะบางทีเราต้องการพื้นที่โล่งๆให้สมองส่วนอื่นบ้าง แต่ในขณะเดียวกันไม่ควรปล่อยให้นานเกินไป เช่น อ้อมเองที่เรียนเคยเขียนโปรแกรม ผ่านมาแล้ว 10 ปี กลับมาใหม่ก็พอเข้าใจอยู่ เพราะตอนที่เรียนที่โรงเรียน เรียนมา 7 ปีเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม
3. อย่ากลัวที่จะผิดพลาด
เรื่องนี้คือมสื่งที่จริงที่สุด เพราะการเขียนโปรแกรมยิ่งเราพลาดเท่าไหร่ เรายิ่งเข้าใจการเขียนโปรแกรมเท่านั้น ยิ่งเราแก้โจทย์ยากเท่าไหร่ เรายิ่งไปไกลกว่าเดิม
การเขียนโปรแกรมตือการพัฒนาทักษะเทคโนโลยีตลอดเวลา ว่าทำอย่างไรให้สั้นขึ้น ง่ายขึ้น Error น้อยขึ้นดังนั้นการทำอะไรใหม่ๆ มันง่ายมากที่จะเกิด Error และการ Error ครั้งนี้ทำให้ผู้ที่เขียนโปรแกรมไปได้ไกลกว่าเดิม
4. ขอความช่วยเหลือ
การเขียนโปรแกรม เป็นเรื่องใหม่ที่ทุกคนต้องศึกษา ทั้งนี้การขอความช่วยเหลือทั้งทางออนไลน์อย่างกลุ่ม ต่างๆ หรือแม้แต่ออฟไลน์ คนรู้จักที่เราสามารถเข้าถึงได้ ก็ช่วยการทำงานของเราเร็วขึ้น เพราะเชื่อว่าเวลาที่เรามีปัญหาไม่ใช่เราคนเดียวที่เจอ
5. อย่าพยายามเรียนรู้ทกอย่าง
การเขียนโปรแกรมมันมีเยอะมากบนโลกใบนี้ การที่เราต้องการเรียนทุกภาษาภายใน 1 เดือนมันไม่ใช่เรื่องง่ายดังนั้นเราต้องลองเรียนตั้งแต่พื้นฐาน เช่น
– ทำไมต้องโปรแกรม
– เรียนเขียนโปรแกรมจะได้อะไร
– ภาษาคอมพิวเตอร์พื้นฐานต้องมีอะไรบ้าง
– 20 ชั่วโมงแรกถ้าต้องเรียนเขียนโปรแกรมแบบพื้นฐานต้องเริ่มจากตรงไหน โปรแกรมอะไร Blocky หรือไม่ เป็นต้น
6. ฝึกทุกวัน
การเรียนโค้ดดิ้งคือการเรียนภาษาใหม่ เหมือนกับที่เราเรียนภาษาอังกฤษ จีน เยอรมัน ฝรั่งเศสนอกจากการเรียนแล้วต้องฝึกทุกวัน คือการฝึกสื่อสารคุยกับคอมพิวเตอร์ ฝึกใช้คำศัพท์ ฝึกอ่าน หรือฝึกดูเทคโนโลยีที่มาใหม่ๆเสมอ เพราะเทคโนโลยีไปเร็วมาเร็ว การที่เราอัพเดตข่าวสารนี้ตลอดเวลาช่วยให้ข้อมูลของเราดีขึ้น และหยิบเอามาใช้ได้ง่ายขึ้น
7. ใช้กับทักษะของตัวเองที่เรียนมา
ลองเอามาปรับใช้กับชีวิตประจำวัน เอาศัพท์โค้ดดิ้งเหล่านี้ซึมไปทุกกิจกรรมที่ทำ เช่น แปรงฟัน ลองใช้อัลกอริทึ่มวางขั้นตอนการแปลงฟันขับรถลองใช้ If Else ในการเลือกเส้นทาง
ใช้ Debug ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ พร้อมจดบันทึกว่าเราแก้ไขด้วยอะไร และได้ผลอย่างไรการตัดสินใจเรียงลำดับการทำงานนั่นคือการใช้ Computational Thinking คือการคิดเป็นระบบ ลองดูนะคะ การเอาโค้ดดิ้งมาใช้ในชีวิตประจำวันไม่ใช่เเรื่องยากเลย
8.ตั้งใจและจดจ่อ
หากเป็นผู้ใหญ่ หรือผู้ปกครองคงไม่ยากเท่าไหร่ที่จะเริ่มเรียนเขียนโปรแกรม เพราะมีสมาธิจดจ่อในการเรียนมากกว่าเด็ก เด็กต้องมีลูกล่อลูกชนในการเรียนพอสมควรค่ะ เพราะฉะนั้นเกมหรือการเล่นมีผลมาก ทำให้น้องอยากเรียน อยากไปต่อ หรือเวลาที่เขียนโปรแกรมและ Bug หรือว่า Error ก็สามารถไปต่อได้ เพื่อไปหนทางที่ดีกว่า
9. หาที่ปรึกษาที่ทำได้
เชื่อว่าผู้ปกครองหลายท่านถ้าอยากสอนลูกเองคงเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายามพอสมควรการหาที่ปรึกษาที่ดี ที่เข้าใจได้ หรือถ่ายทอดได้ดีไม่ใช่เรื่องยากนะคะ
ทั้งนี้ทาง Codekids เองเข้าใจเรื่องนี้จึงคอยทำบทความ สื่อการสอนเพื่อช่วยเหลือทุกคนให้เข้าใจเรื่องการเขียนโปรแกรม พร้อมทั้งเทคนิคที่นำไปใช้และต่อยอดได้ ยังไงทางเราขอขอบคณทุกการติดตามนะคะ
10. ติดตามผลการเรียนรู้
นอกจากการเรียนเขียนโปรแกรม การเริ่มลงมือทำ ที่สำคัญคือการตรวจสอบ และรีเชคว่าสิ่งที่เราถูกต้องหรือไม่ เราสามารถทำได้ดีกว่านี้ไหม เช่น ง่ายกว่านี้ไหม โค้ดให้สั้นกว่านี้ไหม หรือมีเทคนิคใช้อะไรบ้างเพื่อการโค้ดดิ้งของเราดีขึ้นกว่าเดิม
การที่เราทำบ่อยๆ ตรวจสอบบ่อยๆ เราจะเข้าใจกระบวนการทำงานของภาษาคอมพอวเตอร์พร้อมกับดูว่าเราใช้ไปเท่าไหร่ เริ่มเรียนเมื่อไหร่ และดีขึ้นอย่างไร แบบนี้จะช่วยเรื่องการเขียนโปรแกรมดีขึ้นค่ะ
✨บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- แจกคู่มือใบงาน Pokémon Unplugged เกมฟรี!! 23 โปรเจคพร้อมเฉลย (ลิขสิทธิ์แท้แน่นอน)
- รู้จัก Pokémon Quest ผจญภัยโลก Block แบบโปเกม่อน (สาย Roblox ชอบแน่อน!!)
- สอนสร้าง Christmas Tree ด้วย Python แบบง่ายๆ 2 โปรเจค มาดูกันเลย!!
- สอนสร้างงานศิลปะทำภาพแบบ ArtCode แบบง่ายๆ ไม่กี่คลิก (ที่นี่!!)
- รู้จัก Google Arts & Culture เรียนรู้ภาพและศิลปะผ่านเกมมากมาย (เหมาะสำหรับเด็ก)