วิธีสอนเด็กที่บอกฝึกคิดเป็นระบบ Coding โดยไม่ใช้คอมพิวเตอร์ง่ายๆ ได้เองที่บ้าน

มีเวลาไม่เยอะอยากอ่านสั้นๆ

1. การคิดเป็นระบบอยู่ในชีวิตประจำวัน
ช่วยเรื่องการวางแผนการจัดการให้ดีขึ้นโดยเฉพาะเรื่องการตัดสินใจเพราะมีสิ่งเร้ามากมายในอนาคตถ้าเราไม่ฝึกคิดเป็นระบบเราจะไม่มีสติพอไม่มีสติเราจะอยากซื้อของที่ไม่จำเป็นอยากเล่นเกมส์โดยไม่มีเป้าหมาย
.
2. กิจกรรม Unplugged
คือการเขียนโปรแกรมโดยไม่ใช่คอมพิวเตอร์ทั้ง Board game สื่อการสอนหรืออุปกรณ์ที่สามารถเอามาใช้ได้ผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยให้คิดเป็นระบบมากขึ้นและสร้างความเข้าใจในการเขียนโปรแกรมมากขึ้น
.
3. การเขียนโปรแกรมยังต้องใช้คอมพิวเตอร์
ทุกอย่างต้องเป็นลำดับขั้นตอนตั้งแต่วัย 4-10 ปีตั้งแต่ Unplugged ไปจนถึงการฝึกคิดเป็นระบบในการแก้ไขปัญหาและการเขียนโปรแกรมจริงๆเพื่อให้ทันสื่อและเทคโนโลยี

ความจริงชีวิตเรามีการฝึกคิดเป็นระบบหรือ Coding ทุกวันนะคะทั้งในชีวิตประจำวันและการตัดสินใจทุกอย่างของเด็กหากรู้จัก Coding ก็จะทำให้พวกเขามีแนวคิดอย่างเป็นระบบและช่วยให้พวกเขาอยู่ร่วมกับเทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม ยกตัวอย่างในชีวิตประจำวันเช่น การแปรงฟันถ้าน้องๆอยากแปรงฟันจะสร้างลำดับขั้นตอนอย่างไรต้องมีอะไรบ้างต้องมีแปรงสีฟัน น้ำ ขันใส่น้ำ ยาสีฟันและถ้าเรียงลำดับความสำคัญควรเริ่มทำอะไรก่อนหรือการทำอาหารตอนเช้าการทำขนมปัง

ข้อดีการฝึกคิดเป็นระบบ คือ

– ฝึกคิดเพื่อวางแผน

– การจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า

– การแก้ไขปัญหา

– การรู้ว่าเราควรทำอะไร รู้ว่าอะไรสำคัญ

coding โดยไม่ใช้คอมพิวเตอร์

ตัวอย่าง: ลำดับขั้นตอนวิธีการแปรงฟัน

1. เราต้องเริ่มจากหยิบแปรงสีฟัน

2. นำยาสีฟันมาบีบบนแปรงสีฟัน

3. ขันใส่น้ำ และมีน้ำอยู่ในขัน

4. นำแปรงสีฟันที่มียาสีฟัน จุ่มในน้ำ

5. บ้วนน้ำในปากสัก 1 ครั้ง

6. แล้วแปรงฟัน แปรงฟันบน ฟันล่าง ฝั่งซ้าย ฝั่งขวาและลิ้น

7. บ้วนน้ำอีกครั้งเพื่อเอาฟองออกจากปาก

มีวิธีอื่นไหม? มีค่ะ แล้วแต่ความถนัด – บางคนอาจจะบ้วนน้ำก่อนแล้วค่อยบีบยาสีฟัน – บางคนอาจจะเอานิ้วใส่ยาสีฟันแล้วแปรงแทนการหยิบแปรงสีฟันเพราะบางทีแปรงร่วงลงพื้นแปรงไม่มีเลยเอานิ้วชี้เป็นแปรงสีฟันแทน- บางคนอาจจะกลืนยาสีฟันเพราะยาสีฟันอร่อย (กรณีที่เด็กใช้ยาสีฟันเด็ก) เป็นต้น

เด็กสามารถตัดสินใจได้ว่าอะไร ด่วน,สำคัญ-ไม่ด่วน,ไม่สำคัญ-ด่วน หรือไม่สำคัญ-ไม่ด่วน เพื่อที่เราจะฝึกโฟกัสในเป้าหมายมากขึ้นมันคือสิ่งที่เราควรต้องฝึกเพื่อเอามาใช้ในชีวิตประจำวันและทุกคนควรต้องฝึกค่ะไม่ใช่แค่เด็กกลับมาที่การ Coding โดยไม่ใช้คอมพิวเตอร์ศัพท์ทางการคือ Unplugged (อัน-ปลั๊ก) กิจกรรมการสอนเด็กเขียนโปรแกรมโดยไม่ใช้คอมพิวเตอร์มีทั้ง

  • Board game
  • กิจกรรม outdoor
  • การเขียนโปรแกรม เพียงแค่การเอากระดาษ ดินสอ กรรไกรมานั่งตัดแปะ
  • สื่อการสอนมากมายที่เอามาใช้ร่วมกับ Application แล้วให้เด็กฝึกการเขียนโปรแกรม เข้าใจภาษาพื้นฐานอย่าง if, else, loop
  • สื่อการสอนที่ไม่ต้องใช้คอม แต่ใช้อุปกรณ์ร่วมนั่นคือ หุ่นยนต์ เช่น CUBETO มีอีกหลายอย่างเยอะมากๆค่ะ

หากถามว่ากิจกรรมที่สอนเด็กเขียนโปรแกรมโดยไม่ใช้คอมพิวเตอร์ก็อาจจะบอกว่าให้เอาแก้วน้ำมา 1 ใบและจิตนาการว่าอันนี้คือหุ่นยนต์และมีคำสั่งแค่ เดินหน้า(forward), หันซ้าย(left), หันขวา(right) และต้องมีปุ่ม เริ่มต้น (start) เพื่อเริ่มให้หุ่นยนต์เดินถ้าเราอยากจะเคลื่อนที่จากจุด A ไปจุด B ต้องเดินกี่สเตปและใช้สัญลักษณ์อะไรบ้างเด็กๆจะตอบเอง และเขียนเองในกระดาษถ้าเอาแบบสนุกก็สร้างอุปสรรคเพื่อให้พวกเขาคิดมากขึ้น เช่น

หากเริ่มจากอายุไม่เกิน 7 ปี

หากน้องๆที่อายุยังไม่ถึง 7 ปี อยากสอนเขียนโปรแกรมแต่ข้อห้ามคือห้ามใช้คอมพิวเตอร์เพราะต้องพัฒนาสมองส่วนหน้า และกล้ามเนื้อนิ้วมือ แต่เราสามารถสอนน้องๆ ฝึกคิดเป็นระบบได้จากกิจกรรมแปรงฟัน, ผสมสี, ดินน้ำมัน, ทำงานบ้านหรือบางทีต้องใช้สื่อสารสอนโดยไม่ใช้คอมอย่าง Application + iPad, unplugged, Board game เป็นต้น

พออายุ 8-10 ปี

เป้าหมายคือสอนเขียนโปรแกรม และฝึกคิดเป็นระบบดังนั้นกล้ามเนื้อนิ้วมือเริ่มทำงานแล้วเริ่มใช้เม้าส์เริ่มพิมพ์ดีดได้ ถึงสามารถเขียนโปรแกรมจากเครื่องคอมพิวเตอร์ได้แต่ถ้าจะให้ใช้คอมอย่างเดียวก็กะไรอยู่ต้องเอากิจกรรม Unplugged เพื่อมาฝึกคิดและกลับไปเขียนโปรแกรมใหม่ให้พวกเข้าเข้าใจและจำมากขึ้น

Codekids เองก็ทดลองหลายอย่างจนมาตกผลึกว่าเวลาก่อนสอนต้องดูว่าเด็กแต่ละคนมีความต่างกันอย่างไร

น้องๆเป็นเด็กมีความสามารถด้านไหน
เริ่มจาก
coding โดยไม่ใช้คอมพิวเตอร์

ดังนั้นน้องๆอายุช่วงนี้ต้องใช้ทั้ง Unplugged,การฝึกคิดเป็นระบบในการแก้ไขปัญหา,การเขียนโปรแกรมจริงๆเพื่อให้ทันสื่อและเทคโนโลยีเป็นลำดับขั้นตอนไป

1.เอากิจกรรม Unplugged ที่ทดลองความสามารถขึ้นมาก่อน ว่าเค้ามีระบบความคิดอย่างไร เพื่อฝึกการคิดเป็นระบบ การเรียงลำดับความสำคัญ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

2.ค่อยสอนการเขียนโปรแกรมโดยใช้คอมพิวเตอร์

3.พอสอนเขียนโปรแกรมโดยใช้คอมพิวเตอร์ ต้องกลับมาสอนการเขียนโปรแกรมโดยใช้ Unplugged อีกทีโดยเอาคำสั่งที่อยู่ในโปรแกรมเอามาทดลองทำเช่น if, else, loop เป็นต้น

สรุปคือ กิจกรรม Unplugged คือการเขียนโปรแกรมโดยไม่ใช่คอมพิวเตอร์ทั้ง Board Game สื่อการสอนหรืออุปกรณ์ที่สามารถเอามาใช้ได้ผลลัพธ์คือช่วยให้คิดเป็นระบบมากขึ้นเป็นแนวการคิดเป็นระบบอยู่ในชีวิตประจำวันช่วยเรื่องการวางแผนการจัดการให้ดีขึ้นโดยเฉพาะเรื่องการตัดสินใจเพราะมีสิ่งเร้ามากมายในอนาคตถ้าเราไม่ฝึกคิดเป็นระบบเราจะไม่มีสติพอไม่มีสติเราจะอยากซื้อของที่ไม่จำเป็นอยากเล่นเกมส์โดยไม่มีเป้าหมายเป็นต้น

เเนะนำให้อ่านบทความ : การศึกษา โค้ดดิ้ง ประเทศไทยเด็กจะได้เรียน ได้รับความรู้อะไร

หากลองเปรียบเทียบกับการสอน Coding เราคงไม่สามารถเอาเนื้อหาการสอนของมหาลัยมาใช้กับเด็กประถมหรือหากเป็นหลักสูตรเด็กประถมต่างประเทศก็ต้องกลับมาดู ด้วยว่าจะเหมาะสมกับเด็กอายุเท่าไหร่เมือเทียบกับเด็กไทยเพื่อมีมาตรฐานและดึงศักยภาพเด็กออกมาให้ถูกจุด

หากท่านใดสนใจให้ลูกหรือเด็กเขียนโปรเเกรมเป็นและได้รับการเรียนรู้ Coding และ Digital literacy สามารถเริ่มได้ตั้งเเต่ 6 หรือ 7 ขวบได้เลย ลอง Inbox เข้ามาสอบถามได้นะคะติดตามเราได้ที่เพจ: https://www.facebook.com/codekidsTH/ หรือคลิกดูหลักสูตรทั้งหมดของเราได้ที่นี่ https://www.codekids.co/course/

บทความที่เกี่ยวข้อง

pokémon-unplugged
คุณครู

แจกคู่มือใบงาน Pokémon Unplugged เกมฟรี!! 23 โปรเจคพร้อมเฉลย (ลิขสิทธิ์แท้แน่นอน)

CodeKids เราไปเจอของดีมาเลยอยากจะมาแนะนำต่อเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคุณครูและผู้ปกครองนำไปใช้สอนเด็กๆ Unplugged Coding