ความมหัศจรรย์ของเด็กที่ผู้ใหญ่อย่างเราควรเรียนรู้แล้วเราจะรู้ว่าไม่มีใครอัจฉริยะแต่กำเนิดแต่อัจฉริยะนั้นเกิดจากจากสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็ก
1.เพราะสังคมแวดล้อมสำคัญกว่ากรรมพันธุ์
เด็กที่มีความสุข และรู้สึกอบอุ่นมั่นคงท่ามกลางสมาชิกครอบครัว เพื่อนและสภาพแวดล้อมทางสังคม มีแนวโน้มที่จะพัฒนาศักยภาพด้านสติปัญญาได้อย่างเต็มที่ ส่วนเด็กที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ทำให้เป็นกังวลหรือหวัดกลัวจะประสบปัญหาด้านการเจริญเติบโต ทั้งในด้านสติปัญญาและอารมณ์
2.ปริมาณถ้อยคำที่เด็กได้ยินได้ฟัง
มีผลต่อพัฒนาสมองของเด็ก เด็กที่อาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีเวลาเเละกิจกรรมร่วมกับเด็กๆบ่อยจะได้ยินคำพูดโดยเฉลี่ย 487 คำต่อชั่วโมง เมื่อเทียบกับเด็กที่อาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีไม่ค่อยมีเวลาเเละกิจกรรมร่วมกันเเล้วจะได้ยินคำพูดเฉลี่ย 178 คำต่อชั่วโมง 4 ปีผ่านไป ถ้อยคำที่เด็กได้เรียนรู้นั้นแตกต่างกันมหาศาล
เพราะเด็กที่อยู่ในครอบครัวที่มีกิจกรรมสูงนั้นได้ยินคำพูดรวมกันประมาณ 44 ล้านคำ ส่วนเด็กที่อยู่ในครอบครัวกิจกรรมไม่มากนักจะได้ยินประมาณ 12 ล้านคำ ยิ่งเด็กได้เรียนรู้ถ้อยคำปริมาณมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีผลต่อพัฒนาการของสมองเด็กมากเท่านั้น
3.เด็กไม่ใช่ฝ่ายที่รอรับข้อมูลการเรียนรู้อย่างเดียว
แต่ยังเลือกที่จะรับข้อมูลเพื่อเรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการด้วยถ้าพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกฉลาด ต้องรู้จักสอนให้ลูกลงรายละเอียด เพราะการที่เด็กพยายามพูด อธิบายเหตุการณ์โดยลงรายละเอียดส่งผลต่อทักษะทางภาษาที่สำคัญ และยังพัฒนาความจำได้ด้วย เช่น แม่พาลูกไปเที่ยวสวนสัตว์
แล้วแม่คนแรกถามว่า “เห็นสัตว์อะไรบ้าง” พอลูกตอนว่า “เห็นสิงโต”แล้วแม่ควรถามต่อว่า “สิงโตนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร มีขนสีอะไร สิงโตมากี่ตัว”เป็นต้น
“เพราะยิ่งลงรายละเอียดมาก เด็กก็ยิ่งต้องคิดหาถ้อยคำมาอธิบายและยิ่งต้องดึงความทรงจำมาใช้มากขึ้นค่ะ“
4.เด็กวัยรุ่นนั้นมีสมองที่เสียเปรียบเด็กเล็ก
เพราะสมองของวัยรุ่นนั้นอยู่ในช่วงปรับเปลี่ยนโครงสร้างมากทำให้ไม่ สามารถใช้งานสมองได้ดีเท่าเด็กเล็กด้วยซ้ำก็เหมือนกับพื้นที่กำลังถูกรื้อถอนเพื่อสร้างตึกใหม่ที่ดีขึ้นก็ย่อมมีพื้นที่ๆใช้งานได้มีประสิทธิภาพไม่เท่าพื้นที่เดิมๆที่ไม่ได้ถูกรื้อถอนเพื่อก่อสร้าง พอนึกภาพออกใช่มั้ยค่ะ ดังนั้นอยากให้เด็กโตมาเป็นแบบไหน
“สร้างสภาพแวดล้อม”ให้เค้าเป็นแบบนั้นครับสภาพแวดล้อมนั้นสำคัญกว่าพันธุกรรมต่อเด็กมากลองคิดดูซิว่าถ้าเด็กคนนึงเกิดมา โดยมีพ่อแม่เป็นนักดนตรีมากพรสวรรค์ แต่ที่บ้านกลับไม่มีเครื่องดนตรีซักชิ้น
แต่ถ้าเด็กอีกคนเกิดมาโดยไม่ได้มีพ่อแม่เป็นนักดนตรีแต่อย่างไรแต่ที่บ้านกลับมีเครื่องดนตรีพร้อมแน่นอนว่าเด็กคนที่บ้านมีเครื่องดนตรีพร้อมไม่ได้หมายความว่าจะกลายเป็นนักดนตรีเอกได้เสมอไป แต่เด็กที่อยู่ในบ้านที่ไม่มีเครื่องดนตรีนั้นไม่มีทางจะกลายเป็นนักดนตรีฝีมือดีได้เลย
ของให้สนุกกับการพัฒนาศักยภาพของเด็กๆเเละการเรียนรู้ของเด็กด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกการติดตามค่ะเเละขอบคุณข้อมูลจากคุณ Nattapon Muangtum
ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ :
https://medium.com/@nuinattapon/child-psychology-จิตวิทยาเด็ก-81aee9906968
หนังสือเล่มนี้เขียนโดย: Usha Goswami
แปลไทย: สุภลัคน์ ลวดลาย และ วรัญญู กองชัยมงคล
สำนักพิมพ์: Bookscape
หากสนใจติดต่อสั่งซื้อได้ที่เเฟนเพจ “Bookscape” ได้เลยค่ะ
✨บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- แจกคู่มือใบงาน Pokémon Unplugged เกมฟรี!! 23 โปรเจคพร้อมเฉลย (ลิขสิทธิ์แท้แน่นอน)
- รู้จัก Pokémon Quest ผจญภัยโลก Block แบบโปเกม่อน (สาย Roblox ชอบแน่อน!!)
- สอนสร้าง Christmas Tree ด้วย Python แบบง่ายๆ 2 โปรเจค มาดูกันเลย!!
- สอนสร้างงานศิลปะทำภาพแบบ ArtCode แบบง่ายๆ ไม่กี่คลิก (ที่นี่!!)
- รู้จัก Google Arts & Culture เรียนรู้ภาพและศิลปะผ่านเกมมากมาย (เหมาะสำหรับเด็ก)